ดูหนัง โน่นก็เลยทำให้ตัวหนังเองบางทีก็อาจจะเชื้อเชิญให้ผิดหวังไปสักนิดสักหน่อยสำหรับคนชอบดูหนังแอ็กชันครับ ด้วยเหตุว่ารูปร่างความเป็นหนังแอ็กชันที่มีอยู่บ้าง แม้กระนั้นก็น้อยกว่าหนังแอ็กชันเอาจริงเอาจัง แล้วก็พอเพียงมันเป็นหนังที่ Based on True Story แน่ๆว่า อย่างไรผู้ชมที่เคยหาข้อมูลมาและจากนั้นก็ย่อมจำต้องทราบตอนสุดท้ายรวมทั้งผลสรุปไปแล้วอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
แม้กระนั้นตัวหนังก็ยังจัดว่าฉลาดหลักแหลมที่มานะสมดุลระหว่างเรื่องราวของการชิงไหวชิงพริบในทางการทูต การฉายภาพให้มองเห็นของฝั่งนักการทูต ที่เป็นผู้แทนของนักพูดจาฝ่ายบุ๋นที่มีทริกสำหรับการพูดจา เสนอข้อเรียกร้อง อ่านใจ ดูหนัง อ่านเกมคู่อริให้ขาดว่าตาลีบันปรารถนาอะไรกันแน่ แล้วก็เป็นเป้าหมายหลักของทหารที่นาซีหน่วยนี้ที่รู้ข่าวว่าครอบครัวชาวยิวทิ้งทองคำแท่งไว้เยอะๆ
แถมยังจำต้องอ่านเกมที่มีความสำคัญในการรบของผู้ก่อเหตุร้ายแรงในอัฟกานิสถานให้พอเหมาะพอควรพอเพียงสมที่สุด ถึงแม้บางทีจำเป็นจะต้องแลกเปลี่ยนกับการเสียเวล่ำเวลาไปบ้าง และยังไม่สามารถที่จะสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาล ซึ่งเป็นผู้แทนฝ่ายบู๊ที่พร้อมจะบวกผู้ก่อให้เกิดเหตุร้ายตลอดเวลา แต่ว่าแท้จริงเป็นด้วยเหตุว่ากลัวเสียฟอร์ม กลัวจะด้อยกว่าผู้ก่อเหตุร้าย
รวมถึงสื่อของประเทศเกาหลีใต้เองที่ก็ประมาทจนกระทั่งทำให้ข่าวสารที่น่าจะลับ ดันแพร่ไปไปทั่วจนถึงไพเราะผู้ก่อวินาศกรรม พาให้สถานะการณ์ยิ่งแย่ลงกว่าเดิมหนัก แล้วก็บีบด้วยเหตุการณ์ด้านในขณะที่เกือบจะทายใจจิตใจตาลีบันมิได้เลยว่าจะฆ่าคนใดกันแน่อีกเมื่อใด แม้ว่าจะมิได้มีฉากแอ็กชันมันๆแต่ว่าตามตามทางของการพูดจาก็ยังยัดเยียดข้อหาระทึกตื่นเต้นไปกับเหตุการณ์ที่บังคับรวมทั้งห่วยลงเรื่อยก่อนที่จะแทรกมุกขำขันแกล้มแก้มันเป็นช่วงๆ
ดูหนัง รีวิว Man vs. Bee
ถ้าเกิดกล่าวถึงชื่อของดารานำของเรื่องอย่าง Rowan Atkinson คนจำนวนไม่น้อยก็อาจไม่ทราบจะกันอย่างแน่แท้แม้กระนั้นถ้าหากว่าบอกว่า Mr.Bean รับประกันว่าทุกคนก็จะร้องอ้อ! ในทันที ใช่แล้วจ้ะหัวข้อนี้ก็ได้ผลสำเร็จการงานแสดงของเค้าอีกเหมือนเคย โดยในซีรีส์ Man vs. Bee นั้นจะเกิดเรื่องราวของ Trevor ชายคนรับหน้าที่เป็นคนดูแลบ้านข้างหลังใหญ่สุดหรูที่เต็มไปด้วยสิ่งที่มีค่าแล้วก็เทคโนโลยีสุดไฮเทค
แต่ว่าแล้วเรื่องยุ่งๆก็เกิดขึ้นเมื่อเขาได้เจอกับเจ้าผึ้งตัวยุ่งเจ้าปัญหานี่แหละแล้วก็สุดท้ายแล้วเรื่องยุ่งๆที่เกิดขึ้นก็ได้เกินเลยไปจนกระทั่งขั้นทำศึกสงครามกันระหว่างคนกับผึ้งอย่างยิ่งจริงๆซึ่งคนไหนจะอยู่ผู้ใดกันแน่จะไปก็จำเป็นต้องไปติดตามกันได้ในเรื่องเลยคะ สำหรับซีรีส์ประเด็นนี้ก็ออกจะมีรายละเอียดที่ค่อยสบาย เข้าใจง่าย และก็รายละเอียดเองไม่ยาวเพราะว่าแต่ละตอนก็แค่ 10 นาทีนิดๆแค่นั้น นับว่ามองเพื่อเครียดน้อยลงได้จ้ะ
ความยาวหนังตามมาตรฐานเพียงแค่ 90 นาที แม้กระนั้นก็ยังแบ่งคปรี่งแรกรวมทั้งช่วงหลังได้อย่างเห็นได้ชัด ครึ่งแรกนั้นเรื่องราวจะอยู่ที่บ้านนาของเอลซา ที่ไฮน์ริชแล้วก็เอลซาต้องจัดการกับหน่วยทหารท้องนาซี ก่อนที่จะพวกมันจะจับพอลไปยังหมู่บ้าน เพียงพอเข้าช่วงหลัง เรื่องราวก็จะดำเนินอยู่มากแค่ไหนหมู่บ้านเล็กมีราษฎรไม่กี่หลังคาเรือน มีโบสถ์เป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน
รวมทั้งพวกมันก็ปรารถนาครองทองคำกลุ่มนี้ เพื่อไปดำเนินชีวิตเป็นสุขด้วยเหตุว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้จะเลิกลงแล้ว ทำให้ 2 เส้นเรื่องมาบรรสิ้นสุดกันในหมู่บ้านนี้ แล้วพาพวกเราไปสู่ฉากจุดไคลแมกซ์ที่สาดกระสุนกันดุเด็ดเผ็ดมัน ทั้งยังราษฎรที่ฆ่าคุ้นเคยเพื่อชิงทองคำ แล้วยังจำต้องจัดการกับทหารท้องนาซีที่อยากทองคำด้วยเหมือนกัน ส่วนไฮน์ริชรวมทั้งเอลซานั้นก็ปรารถนาล้างแค้นกับผู้พันแล้วก็นายสิบชั่วร้าย
แต่ว่าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อคิดเห็นเลยจ้าขอรับ ดูหนัง เนื่องจากด้วยการตัดสินใจย้ำเรื่องราวบุ๋นมากยิ่งกว่าบู๊ ถึงแม้มันจะก่อให้โทนของหนังมีความเป็นภาพยนตร์ฝรั่งฮอลลีวูดมากยิ่งกว่าหนังประเทศเกาหลีก็เหอะ แม้กระนั้นตัวหนังมันก็แอบตัดทอนความน่าดึงดูดใจโดยรวมของหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งแรกลงไปๆมาๆกพอควร ไม่ว่าจะเพราะเหตุว่าด้วยเรื่องราวนี้
เป็นข่าวประเทศเกาหลีใต้ ที่อย่างไรคนต่างชาติก็อาจอินได้น้อยกว่าอยู่แล้วล่ะ (ในช่วงเวลาที่ประเทศอื่นก็อาจจะไม่อินกับเรื่องเด็กติดถ้ำ อะไรอย่างงี้) และฉากการพูดจาที่หนักไปทางนั่งโต๊ะ คุยทางโทรคำศัพท์ การเล่าเรื่องในครึ่งแรกก็เลยนับว่าทำเป็นตามมาตรฐาน ไม่ถึงกับเบื่อจนถึงง่วงหงาวหาวนอน แต่ว่าก็มิได้เย้ายวนใจให้ติดตามได้ซักเท่าไหร่
รวมทั้งการปูเรื่องรวมทั้งวางเงื่อนให้กับนักแสดงที่ยังทำเป็นไม่ถึงนัก อีกทั้งเงื่อนความไม่ถูกกันของ 2 นักแสดงหลักที่ถูกวางให้ไม่ตรงกันดราม่ากันในเชิงอุดมการณ์รวมทั้งกระบวนการจนกระทั่งไม่ถูกกัน แต่ว่าในหนังกลับทำเป็นเพียงแค่แทรกเส้นเรื่องขัดขา เถียงในเชิงแนวความคิดกลางทาง มากยิ่งกว่าจะเป็นการไม่ตรงกัน
สำหรับเพื่อการดำเนินการจริงๆอีกจุดที่โชคร้ายก็คือนักแสดงแดสิกข์ ที่มีเงื่อนอดีตกาลน่าปวด แม้กระนั้นหนังก็มิได้เอามันมาใช้อย่างที่ต้องเป็น แล้วก็แม้ว่าจะมีฉากแอ็กชันโชว์ความโก้แบบจัดๆและก็ดึงดูดสายตาในหนังสูงที่สุดแล้ว แม้กระนั้นด้วยหน้าที่โดยรวมของหนังก็ยังน้อยไปจนถึงเปลี่ยนเป็นบทสมทบเสียมากกว่า
รีวิว Sweet Tooth : สวีททูธ
ขอเล่าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาที่ได้กำเนิดการเกิดที่เรียกว่า The Great Crumble ซึ่งโดยฐานรากแล้วมันเป็นการล่มสลายอย่างสมบูรณ์แบบของอารยธรรมมนุษย์นั่นเองจ้ะ ซึ่งการเกิดในตอนนั้นนับว่าเป็นหายนะครั้งยิ่งใหญ่ของโลก รวมทั้งในเวลาเดียวกันมันก็ยังเป็นเหตุให้เด็กอ่อนจำต้องเปลี่ยนเป็นเด็กแรกเกิดลูกผสมระหว่างมนุษย์และก็สัตว์ซึ่ง Gus เป็นหนึ่งให้เด็กกรุ๊ปนั้นนั่นเอง Gus เป็นเด็กลูกครึ่งกวางที่มาพร้อมทั้งเขาบนหัวทั้งสองข้าง
เขาอาศัยอยู่กับพ่อตามลำพังทลายแม้กระนั้นแล้วเมื่อบิดาได้เสียชีวิตลงเพิ่มเติมกับ Gus เองก็เริ่มเติบโตขึ้น เด็กน้อยคนนี้ก็ได้ตกลงใจออกมาจากบ้านแล้วเริ่มการเสี่ยงภัยครั้งยิ่งใหญ่เพื่อตามหาแม่แล้วก็อยากค้นหาคำตอบเกี่ยวกับโลกใบใหม่ใบนี้ รวมทั้งความลี้ลับที่หลบเร้นอยู่ภายใต้เบื้องหน้าเบื้องหลังของแหล่งกำเนิดเด็กลูกผสมอย่างตัวเขาเองด้วยเหมือนกัน สรุปว่าผู้ใดกันที่จะลุ้นตามเจ้าหนูน้อยคนนี้ก็สามารถตามไปดูได้ใน Sweet Tooth เลยจ้ะ
สำหรับซีรีส์ Sweet Tooth ถ้าหากว่าคุณมีความรู้สึกว่ามันเป็นซีรีส์สำหรับเด็กนั้นบอกได้เลยว่าคิดผิดอย่างมหันต์จ้ะเพราะเหตุว่าแม้ว่านักแสดงหลักจะเป็นเด็กน้อยที่เล่นบทโดย Christian Convery ก็จริง แต่ว่ารายละเอียดนั้นกลับไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ เนื่องจาก Sweet Tooth ในความเป็นจริงแล้วถูกปรับเปลี่ยนมาจากคอมไม่ก DC ที่มีรายละเอียดเข้มข้นกลมกล่อมละมุนละไมพอดี ไม่หนักไปกระทั่งชักชวนปวดศีรษะรวมทั้งพอได้จนถึงราวกับซีรีส์เด็ก
ภาพงามมองเพลิดเพลินมากมายๆแถมเจ้าหนู Christian เล่นได้ดิบได้ดีมากมาย ตีบทแตกเกลื่อนกลาดและก็ยังสวยเอามากๆอีกด้วย คนไหนกันที่มองฤดูกาล 1 จบไปแล้วแล้วกำเนิดพึงใจต้องการมองต่อก็มีเฮจ้ะ เพราะฤดูกาล 2 ประกาศแล้วว่ามีต่อแน่ๆแล้วก็ยังมีวี่แววว่าน่าจะปลดปล่อยออกมาให้ได้ติดตามกันข้างในปลายปีนี้หรือบางทีอาจจะข้างในต้นปีหน้า อย่างไรก็รอคอยประกาศอย่างเป็นทางการอีกรอบนะคะ
ด้วยการผลิตติดอยู่แรกเตอร์ที่มีชีวิตชีวาเกือบทุกตัวอีกทั้งลูคของชวาร์เซเนกเกอร์ที่ราวกับดารานำชายคนเหล็กผ่านิวสะสางในวัยใกล้ปลดเกษียณอายุที่จำเป็นต้องมาเจอหน้ากับบุตรสาวสุดห้าวที่บาร์บาโรเองก็ทำให้มองเห็นแล้วว่าจากบท ‘นางผ่าน’ ใน ‘Top Guns: Maverick’ คุณมีฝีมือมากยิ่งกว่าเพียงแค่ความงามหวานหน้ามองดูเพียงอย่างเดียว
มาว่ากันถึงความโรแมนติกในส่วนของบาร์บาโรเองก็มีอีกทั้งส่วนของความโรแมนติกกับเจย์ บารูเชล (Jay Baruchel) กับบทคาร์เตอร์ชายหนุ่มจืดชืดที่ราวกับเป็นที่กำบังภัยของเอ็มมา แล้วก็ยังมีเรื่องมีราวราวกิ๊กกั๊กจั๊กกะจี๋หัวใจกับผู้แสดงอัลดอน ชายหนุ่มหล่อล่ำสุดฮอตสวมบทโดย ทราวิส แวน วิงเคิล (Travis Van Winkle) ที่คงจะถูกอกถูกใจบรรดาผู้หญิงเยอะมากๆ
รีวิว Emily in Paris : เอมิลี่ในกรุงปารีส
เป็นสาวน้อยอเมริกันผู้มีความทะยานอยากได้ถูกส่งตัวไปยังกรุงปารีสเพื่อไปช่วยทำการตลาดออนไลน์ให้กับบริษัทในประเทศฝรั่งเศสนั่นเองจ้ะ ซึ่งแน่ๆว่าแม่สาวน้อยคนนี้ก็แฮปปี้ลิงโลดกันมากมายเพราะว่าหนึ่งเลยก็คือกรุงปารีสเป็นเมืองที่คุณใฝ่ฝันแม้กระนั้นแน่ๆว่าการมาจากต่างถิ่นและก็ต่างวัฒนธรรมแบบนี้ก็ไม่ใช่ง่ายราวการปอกกล้วยเข้าปากแน่ๆ เนื่องจากว่า Emily นั้นควรมีการปรับตัวใหม่ทั้งปวง
เพื่อนพ้องเอ่ย สังคมเอ่ย รวมทั้งสังคมสถานที่สำหรับทำงานด้วยด้วยเหมือนกันจ้ะ แม้กระนั้นในเรื่องก็มิได้ใจดำขนาดนั้นจ้ะเนื่องจากว่าอย่างต่ำคุณก็พบกับเพื่อนฝูงที่น่ารักน่าเอ็นดูและก็สุจริตใจอย่าง Mindy และก็เชฟชายหนุ่มที่เป็นทั้งเพื่อนบ้านแล้วก็เพื่อนพ้องรู้ใจสุดหล่ออย่างชายหนุ่ม Gabriel แต่ว่าแล้วพอนานๆเข้าเนื้อหาราวต่างๆก็สลับซับซ้อนเยอะขึ้นทั้งยังเรื่องงาน เรื่องรัก และก็เรื่องชีวิต
สำหรับคนไหนกันที่คลั่งไคล้ในเสน่ห์ความสวยสดงดงามของกรุงปารีสก็ไม่สมควรพลาดอย่างมากจ้ะ ดูหนัง เนื่องจากว่าซีรีส์ประเด็นนี้ไปถ่ายทำกันถึงกรุงปารีสแล้วก็ยังถ่ายทำตามสถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักที่สุดในกรุงปารีสอีกด้วย มุมงาม ภาพดี ประกอบกับตัวเอกอย่าง Emily ที่มากับแฟชั่นสุดปังแล้วด้วยนี่ก็เลยยิ่งเติมเต็มความเป็นที่แฟชั่นรวมทั้งศิลป์ได้เพอร์เฟ็คมากมายอย่างยิ่งจริงๆ
Emily in Paris นับว่าเป็นซีรีส์ที่มีเรื่องราวที่ไม่สลับซับซ้อน ตัวเรื่องราวเองก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ดราม่าไม่มาก ดูแล้วมิได้รู้สึกเครียดตาม แถมยังเกิดเรื่องที่เข้าใจง่ายมีการแทรกมุกเฮฮาหรือฉากที่สร้างรอยยิ้มตลอดเรื่องแล้วแบบนี้ Emily ของพวกเราจะก้าวผ่านปัญหากลุ่มนี้ไปยังไงก็จำต้องไปติดตามได้ในซีรีส์นะคะซึ่งเคมีบิดาลูกของทั้งสองเป็นวัตถุดิบหลักเลยที่ทำให้ซีรีส์ออกมารื่นเริงกลมกล่อมละมุนละไมและก็น่าประทับใจมากมาย
พอสมควรออกครับผม ว่าเป็นหนังฟอร์มเล็ก ใช้ทุนสร้างไม่มากมาย ผู้แสดงไม่มาก บนเส้นเรื่องง่ายๆเป็นเส้นตรง ไม่มีปัญหา ไม่มีการหักมุม แม้กระนั้นก็เป็นบทซึ่งสามารถแทรกสอดฉากแอ็กชันลงไปได้ถี่ๆและก็ทำหน้าคราวเป็นจุดขายของเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเราก็เลยได้มองฉากต่อสู้ที่อีกทั้งร้ายแรงแล้วก็โหดเหี้ยมพอสมควร อีกทั้งการต่อสู้ด้วยปืน มีด รวมทั้งมือเปล่า ยิงกันเลือดกระจัดกระจาย
บางทีก็อาจจะเนื่องจากประเด็นนี้เป็นหนังเยอรมันมังครับผม ไฮน์ริชดารานำชายของเรื่องก็เลยไม่เป็นอึดถึกทนระดับซูเปอร์ฮีโรนัก เก่งจริงสำหรับการต่อสู้ทั้งยังปืนแล้วก็หมัด แต่ว่าหัวข้อนี้ผู้แสดงนำชายของพวกเราก็เสียเชิง หล่นลงไปกองกับพื้นอยู่บ่อยครั้งแบบเดียวกัน ก็ทำให้ข้างดีของเรื่องตกอยู่ในเหตุการณ์ด้อยกว่าให้จำเป็นต้องช่วยลุ้นอยู่บางโอกาส มิได้เอาชนะคู่ปรับแบบผ่านฉลุยกระทั่งเหลือเกิน
รีวิว The Queen’s Gambit : เกมบอร์ดที่ชีวิต
เป็นซีรีส์ที่เริ่มด้วยการกล่าวถึงเด็กสาวที่จะต้องอยู่ในบ้านลูกกำพร้าเพียงลำพังซึ่งแต่ก่อนนั้น Beth Harmon เป็นผู้ที่ค่อนข้างจะเก็บเนื้อเก็บตัวเฉยๆใบหน้าขึ้งเครียดตลดเวลา แล้วก็ดูเหมือนกับว่าเด็กปกติทั่วๆไปที่มิได้มีอะไรที่พิเศษไม่เหมือนกันกับเด็กผู้อื่นแม้กระนั้นแล้ววันหนึ่งคุณก็ได้ได้โอกาสเล่นหมากรุกเกมแรกกับนักการภารโรงที่ชั้นที่อยู่ใต้ดินของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว
ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของคุณก็แปรไปนิรันดร Beth เบาๆโตขึ้นแล้วก็ในเวลาเดียวกันความสามารถการเล่นของคุณก็เบาๆเข้มแข็งขึ้นเช่นเดียวกัน พูดได้ว่าคุณแก้เกมได้อย่างชาญฉลาดแล้วก็สามารถล้มแชมป์เก่าได้นักต่อนัก แต่ว่าเว้นแต่เรื่องเกี่ยวกับการเดินเกมหมากรุกแล้วนั้น Beth ยังจำเป็นต้องเดินเกมชีวิตด้วยด้วยเหมือนกัน อีกทั้งเงื่อนเรื่องของครอบครัว ความรัก และก็เรื่องหม่นหมองๆอีกเพียบเลยที่ถาโถมเข้ามาอย่างกับคลื่นลูกใหญ่
สำหรับซีรีส์หัวข้อนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่เสิร์ฟความรู้สึกลุ้นแล้วก็ความระทึกใจไดีดี แม้ว่าจะมิได้มีฉากแอ็กชันเลยก็ตาม แถมยังมีผลให้ผู้ชมรู้สึกเครียดรวมทั้งรู้สึกตื่นตระหนกร่วมไปกับ Beth ในทุกๆการแข่งขันชิงชัยอีกด้วย รวมทั้งถึงแม้คุณอาจจะมิได้อินกับหมากรุกมาก่อนแต่ว่าด้วยฉาก เพลง แล้วก็อารมณ์ของผู้แสดงก็สามารถทำให้พวกเราเชื่อฟังได้โดยง่าย แล้วก็ที่พวกเราถูกใจมากมายอีกอย่างมันก็คือตัวของ Anya Taylor-Joy ที่ประเด็นนี้ถือแสดงได้อย่างดียิ่ง
ด้วยเหตุว่าไม่ใช่แค่สีหน้าท่าทางหรือคำบอกเล่าเพียงแค่นั้นแต่ว่าสายตาของคุณสามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้แบบดุเด็ดเผ็ดมัน ถึงแม้ว่าคุณจะมิได้กล่าวอะไรสักคำแม้กระนั้นสายตาของคุณนั้นสามารถบอกความคิดของ Beth ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทว่าสำหรับผู้ชมนอกประเทศเกาหลี คนเขียนมองเห็นมุมที่น่าดึงดูดไม่น้อย ลำดับแรกเลยเป็น การเจาะลึกธุรกิจศัลยกรรมเสริมความสวยสดงดงาม
ซึ่งเป็นใจความสำคัญที่ชาวไทยเดี๋ยวนี้ติดตามรวมทั้งสนใจออกจะมากมายจอนแฮอุงเคืองมากมาย แถมยังถูกมาเฟียเงินกู้ยืมนอกระบบ คิมพิลโด (สวมบทโดย คิมมูยอล) มาทวงหนี้อีก แต่ว่าแล้วเขาก็ไปได้สำเนาเอกสารลับฉบับนั้นมาอยู่ในมือด้วยการต่อว่าดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ และก็ใช้มันแลกเปลี่ยนกับเงินลงทุนช่วยเหลือก้อนใหญ่สำหรับเพื่อการเป็นผู้สมัครอิสระ
โดยคิมพิลโดก็พ่วงเอาผู้ช่วยเหลืออันธพาลมาลงขันเงินลงทุนร่วมกันอีกคน นั่นก็คือ จองฮันโม (สวมบทบาทโดย วอนฮยอนจุน) ที่มีการก่อสร้างบังหน้า ส่วนงานไล่ที่รื้อถอนเป็นงานจริง โดยที่พวกเขาต่างก็หวังผลทดแทนอย่างมากมายจากแผนปรับปรุงที่ดินที่จะสำเร็จผลข้างหลังการบรรลุผลของจอนแฮอุงระเบิดกันกระทั่งแขนขาลอยละล่อง ผู้ตายมากไม่น้อยเลยทีเดียว บางรายก็มองแกล้วกล้ามีชีวิตชีวา ได้โชว์ท่าทางบนหน้าจอได้แพร้บๆก็ไปซะแล้ว
หนังเริ่มต้นเรื่องที่ปี 2007 ในสมัยต้นๆที่พึ่งจะคิดใช้มีดหมอมาสร้างความสวยงาม จำต้องบอกก่อนว่ารายละเอียดของหนังเกิดเรื่องแต่งขึ้น แม้กระนั้นมั่นใจว่าอิงเรื่องจริงมาด้วยล่ะ ก็เลยราวกับสะท้อนปัญหานานัปการ ได้แก่ แพทย์เก่งๆถูกใช้ให้เป็นเพียงแต่แพทย์เงา หรือก็คือรับจ๊อบลงมือผ่าแทนด้วยค่าแรงงานถูกๆโดยผู้เจ็บป่วยไม่เคยรู้รวมทั้งถูกเรียกเก็บเงินแพงๆส่วนผู้ครอบครองเงินลงทุนที่กล้าฝ่ากับธุรกิจใหม่ก็มักเป็นผู้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังการหารายได้ที่ไม่สะอาดนัก
ถึงกล้าพร้อมเสี่ยงได้ และก็เมื่อลงทุนและก็ย่อมมีอุบายสำหรับในการฉกฉวยเงิน ตัวอย่างเช่น การใช้เวชภัณฑ์ดุร้ายเพื่อลดเงินลงทุนโดยไม่สนใจเรื่องศีลธรรม หรือการเน้นปั่นยอดจำหน่ายสูงๆโดยมิได้เอาสิ่งที่ต้องการที่จริงจริงของลูกค้าเป็นตัวตั้ง bethub168 ขาดจริยธรรมความเป็นมีออาชีพที่พึงปฏิบัติ สมกับชื่อไทยของหนังที่ว่า ‘อัพกูจอง หลอกมาอัพ จัดมาลวง’